ภาพพจน์
ความหมายของภาพพจน์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ภาพพจน์เป็นการใช้ถ้อยคำสำนวนโวหาร ที่ทำให้ผู้รับสารเกิดมโนภาพ เกิดจินตนาการ ถ่ายทอดอารมณ์ ทำให้มีความรู้สึกร่วมตรงตามความปรารถนาของผู้ส่งสาร | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประเภทของภาพพจน์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ภาพพจน์ที่ใช้ในการสื่อสารมีอยู่มากมายหลายประเภท ดังนี้ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1.อุปมา (simile) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คือ การเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งกับอีกสิ่งหนึ่งที่โดยธรรมชาติแล้วมีสภาพที่แตกต่างกัน แต่มีลักษณะเด่น ร่วมกันและใช้คำที่มีความหมายว่า เหมือนหรือคล้ายเป็นคำแสดงการเปรียบเทียบเพื่อเน้นให้เห็นจริงว่า เหมือนอย่างไร ในลักษณะใด ได้แก่คำว่า เหมือน เสมือน ดัง ดั่ง คล้าย ดูราว เหมือนดั่ง ดุจ ประดุจ ประหนึ่ง ละม้าย เสมอ ปาน เพียง ราว ราวกับ พ่าง เทียบ เทียม เฉก เช่น ฯลฯ เป็นการกล่าว การเปรียบเทียบสิ่งที่เหมือนกันหรือต่างกันใช้คู่กับ อุปไมย อุปมา คือ สิ่งหรือข้อความที่ยกมากล่าวมาเปรียบ อุปไมย คือ สิ่งหรือข้อความที่พึงเปรียบเทียบกับสิ่งอื่นเพื่อให้เข้าใจแจ่มแจ้ง |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ตัวอย่าง เช่น | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2. อุปลักษณ์ (metaphor) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คือการเปรียบเทียบด้วยการกล่าวว่าสิ่งหนึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่งเป็นการเปรียบเทียบที่ไม่กล่าวตรง ๆ ใช้การกล่าวเป็นนัยให้เข้าใจเอง เป็นการเปรียบเทียบโดยนำเอาลักษณะ สำคัญของสิ่งที่ต้องการเปรียบเทียบ มาเปรียบเทียบทันทีโดยโดยไม่ต้องมีคำเชื่อมโยง ไม่ต้องใช้คำแสดงการเปรียบเทียบ ไม่มีคำแสดงความหมายว่า เหมือน ปรากฏอยู่ หรือถ้าจำเป็นต้องใช้ก็ใช้คำว่า “เป็น” หรือ “คือ” อุปลักษณ์ เป็นการใช้ถ้อยคำภาษา ในเชิงการเปรียบเทียบที่มีชั้นเชิงและลึกซึ้งกว่าอุปมา นิยมใช้กับ ภาษ-หนังสือพิมพ์ เพราะใช้คำน้อย ได้ความมากเหมาะกับเนื้อที่อันจำกัด |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ตัวอย่าง เช่น | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3. บุคลาธิษฐาน (personification) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คือ การสมมุติให้สิ่งที่ไม่มีชีวิต ไม่มีความคิด สิ่งที่เป็นนามธรรม หรือสัตว์ให้มีสติปัญญา อารมณ์หรือกิริยาอาการ เหมือนมนุษย์เพื่อให้สิ่งเหล่านั้นเกิดปรากฏการณ์เสมือนเป็น สิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึก นึกคิดขึ้นมา แล้วสื่อความรู้สึกออกมาให้ผู้รับสารได้รับรู้เป็นการเปรียบเทียบโดยนำเอาสิ่งไม่มีชีวิต หรือมีชีวิต แต่ไม่ใช่คนมากล่าวถึงราว กับเป็นคน หรือทำกิริยาอาการอย่างคน “ภาพพจน์ประเภทนี้จะทำให้สิ่งที่กล่าวถึง มีชีวิตชีวา ผู้รับสารจะมองเห็นภาพสิ่งนั้นเคลื่อนไหวทำกิริยาอาการเหมือนคนมีอารมณ์ มีความรู้สึก และสามารถสื่อความรู้สึกนั้นมาสู่ผู้รับสารได้” (นภาลัย สุวรรณธาดา, 2533: 295) |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ตัวอย่าง เช่น | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4. อติพจน์ (hyperbole) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คือ การกล่าวเกินจริง ซึ่งเป็นความรู้สึกหรือความคิดของผู้กล่าวที่ต้องการย้ำความหมาย ให้ผู้ฟังรู้สึกว่าหนักแน่นจริงจัง เน้นความรู้สึกให้เด่นชัดและน่าสนใจ โดยไม่เน้นความเป็นจริง เพราะต้องการ ให้ผู้รับ สารเกิดความซาบซึ้งและประทับใจ ซึ่งอาจจะมากเกินไปหรือน้อยเกินไปก็ได้ เพื่อเน้นความ รู้สึกมากกว่า ความเป็นเหตุเป็นผล มุ่งเร้าอารมณ์และความรู้สึกสะเทือนใจเป็นสำคัญ ภาพพจน์ประเภทนี้นิยม ใช้สื่อสารกันมากทั้งการพูดและการเขียน ที่ต้องการแสดงความรู้สึกเพราะสามารถเปรียบเทียบให้เห็นภาพได้ง่าย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ตัวอย่าง เช่น | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5. นามนัย (Metonymy) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คือ การเปรียบเทียบโดยการใช้คำหรือวลีซึ่งบ่งลักษณะหรือคุณสมบัติที่เป็นจุดเด่น หรือลักษณะสำคัญ ของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือการกล่าวถึงส่วนใดส่วนหนึ่งของสิ่งใด ๆ มากล่าวแทนคำที่ใช้เรียก สิ่งนั้นโดยตรง เป็นภาพพจน์ที่ใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้คำธรรมดา ๆ ซ้ำซาก | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ตัวอย่าง เช่น | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
–ปากกาคมกว่าดาบ -เขาเป็นกระต่ายที่หมายจันทร์ (กระต่ายแทนชายหนุ่มฐานะต่ำต้อยจันทร์แทนผู้หญิงที่มีฐานะสูงส่ง) -เขาเป็นมือขวาของท่านนายกฯ (มือขวาแทนคนสนิทที่ไว้ใจ) -เขารักเก้าอี้ยิ่งกว่าชื่อเสียงเกียรติยศ (เก้าอี้แทนตำแหน่ง) -คนเราจะต้องต่อสู้ตั้งอยู่ในเปลจนไปสู่ป่าช้า (เปล แทนการเกิด, ป่าช้า แทนการตาย) –น้ำตา และรอยยิ้มอยู่คู่ชีวิตมนุษย์เสมอมา (น้ำตาแทนความทุกข์, รอยยิ้มแทนความสุข) –เลือดของวีรชนจะจารึกอยู่ในประวัติศาสตร์ตลอดไป (เลือด แทนการต่อสู้) -คนไทยไม่ยอมให้ใครมาทำลายขวานทองได้ (ขวานทองแทนประเทศไทย) -การจัดสรรงบประมาณควรให้ได้ไปสู่ระดับรากหญ้าจริง ๆ (รากหญ้าแทนประชาชนระดับล่าง) |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6. อนุนามมัย (Synecdoche) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คือ การกล่าวถึงส่วนย่อยที่มีลักษณะเด่นของสิ่งนั้น ๆ มากล่าวแทนสิ่งที่ต้องการกล่าวถึงทั้งหมด เป็นการเปรียบเทียบโดยนำเอาลักษณะเด่นที่เป็นส่วนหนึ่งมากล่าวแทนทั้งหมด | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ตัวอย่าง เช่น | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7.ปฏิพจน์ (paradox) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คือ การใช้ถ้อยคำที่มีความหมายตรงกันข้าม หรือขัดแย้งกันมากล่าวร่วมกันได้อย่างกลมกลืนกัน ภาพพจน์ประเภทนี้ผู้รับสารจะต้องมีความสามารถในการวิเคราะห์ความหมาย หรือ ตีความจึงจะเข้าใจได้ดี | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ตัวอย่าง เช่น | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8. สัทพจน์ (onomatopoeia) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คือ การใช้ถ้อยคำที่เลียนเสียงธรรมชาติ เช่น เสียงดนตรีเสียงร้องของสัตว์ หรือเลียนเสียงกิริยาอาการต่าง ๆ ของคน การใช้ภาพพจน์ประเภทนี้ไม่ว่าจะเป็นการพูดหรือการเขียน จะช่วยสื่อให้ผู้รับสารรู้สึกเหมือนได้ยินเสียง โดยธรรมชาติของสิ่งนั้น ๆ และเห็นกิริยาอาการของสิ่งนั้น ๆ ด้วย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ตัวอย่าง เช่น | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9. ปฏิวาทะ (oxymoron) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คือ การใช้คำที่มีความหมายตรงกันข้ามกันหรือขัดแย้งกันมารวมไว้ด้วยกันเพื่อให้มีความหมาย ใหม่ หรือให้ความรู้สึก ขัดแย้งกัน หรือเพิ่มน้ำหนักให้แก่ความหมายของคำแรก | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ตัวอย่าง เช่น | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10. สัญลักษณ์ (symbol) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คือ การเปรียบเทียบที่เรียกสิ่งหนึ่งสิ่งใดโดยใช้คำอื่นแทน คำที่ใช้เรียกนั้นเกิดจากการเปรียบเทียบและ ตีความซึ่งใช้กันมานานจนเป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไป อาจเป็นคำ ๆ เดียว ข้อความ บุคคลในเรื่อง เป็นเรื่อง เฉพาะตอน หรือเรื่อง ๆ หนึ่งก็ได้ สัญลักษณ์ที่นิยมใช้มีดังนี้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ตัวอย่าง เช่น | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
วรรคทองในวรรณคดี
วรรคทองของสุนทรภู่
ถึงทุกข์ใครในโลกที่โศกเศร้า ไม่เหมือนเราภุมรินถวิลหา
จะพลัดพรากจากกันไม่ทันลา ใช้แต่ตาต่างถ้อยสุนทรวอน
นิราศเมืองแกลง
เขาย่อมเปรียบเทียบความว่ายามรัก แต่น้ำต้มผักเขาชมว่าหวาน
ครั้นจืดจางห่างเหินไปเนิ่นนาน แต่น้ำตาลก็ว่าเปรี้ยวไม่เหลียวแล
นิราศเจ้าฟ้า
อันน้ำใจคนเหมือนต้นอ้อย ข้างปลายกร่อยชืดชิดไม่อิ่มหนำ
ต้องหับหีบหนีบแตกให้แหลกลำ นั้นแหละน้ำจึงจะหวานเพราะจานเจือ
นิราศประประธม
ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน
ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน
นิราศภูเขาทอง
ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์ มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต
แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา
นิราศภูเขาทอง
อันคดอื่นหมื่นคดกำหนดแน่ เว้นเสียแต่ใจมนุษย์สุดกำหนด
ทั้งลวงล่องอเงี้ยวเลี้ยวลด ถึงคลองคดก็ยังไม่เหมือนใจคน
นิราศเมืองเพชร
ด้วยนิสัยในประเทศทุกเขตแคว้น ถึงโกรธแค้นความรักย่อมหักหาย
อันความจริงหญิงก็ม้วยลงด้วยชาย ชายก็ตายลงด้วยหญิงจริงดังนี้
พระอภัยมณี
ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน
แม้นเกิดในใต้หล้าสุธาธาร ขอพบพานพิศวาสไม่คลาดคลา
พระอภัยมณี
อดอะไรจะเหมือนอดที่รสรัก อดจะหักเสียด้วยใจอาลัยหา
ไม่เห็นรักหนักดิ้นสิ้นชีวา จะเป็นบ้าเสียเพราะรักสลักทรวง
พระอภัยมณี
อันโศกอื่นหมื่นแสนในแดนโลก มันไม่โศกลึกซึ้งเหมือนหึงผัว
ถึงเสียทองของรักสักเท่าตัว ค่อยยังชั่วไม่เสียดายเท่าชายเชือน
พระอภัยมณี
หนาวน้ำค้างพร่างพรมจะห่มเสื้อ พออุ่นเนื้อนอนสนิทพิสมัย
ถึงลมว่าวหนาวยิ่งจะผิงไฟ แต่หนาวใจจำกลั้นทุกวันคืน
พระอภัยมณี
ถึงมีเพื่อนเหมือนพี่ไม่มีเพื่อน เพราะไม่เหมือนนุชนาถที่คาดหมาย
มีเพื่อนเล่นก็ไม่เหมือนมีเพื่อนตาย มีเพื่อนชายก็ไม่เหมือนกับเพื่อนชม
นิราศพระแทนดงรัง
จะหักอื่นขืนหักก็จักได้ หักอาลัยนี้ไม่หลุดสุดจะหัก
สารพัดตัดขาดประหลาดนัก แต่ตัดรักนี้ไม่ขาดประหลาดใจ
นิราศอิเหนา
Hello world!
Welcome to WordPress.com! This is your very first post. Click the Edit link to modify or delete it, or start a new post. If you like, use this post to tell readers why you started this blog and what you plan to do with it.
Happy blogging!